มีการวิเคราะห์ไว้ดังนี้
แบบที่ 1 คือ เริ่มที่กลางเดือนของราศีนั้นๆ (เป็นราศีที่เป็นหมู่ดาวบนฟ้าจริงๆ)แบบที่ 2 คือ เริ่มราววันที่ 21-23 ของเดือนก่อน (เป็นแบบฝรั่งทางตะวันตกใช้แบ่งราศีกัน)
แบบที่ 1 เริ่มนับจากกลางเดือน
เป็นราศีที่เป็นหมู่ดาวบนฟ้าจริงๆ แบบ Sidereal Year (365.256363 วัน)โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์อิงกับดาวฤกษ์ พวกชอบเพ้อเจ้อ วันๆ เอาแต่ดูดวงชะตา ไร้สาระสิ้นดี
ผู้ที่เกิดราศีเมษ : ตั้งแต่ 13 เมษายน ถึง 14 พฤษภาคม
ผู้ที่เกิดราศีพฤษก : ตั้งแต่ 15 พฤษภาคม – 14 มิถุนายน
ผู้ที่เกิดราศีเมถุน : ตั้งแต่ 15 มิถุนายน – 14 กรกฎาคม
ผู้ที่เกิดราศีกรกฎ : ตั้งแต่ 15 กรกฎาคม – 15 สิงหาคม
ผู้ที่เกิดราศีสิงห์ : ตั้งแต่ 16 สิงหาคม – 16 กันยายน
ผู้ที่เกิดราศีกันย์ : ตั้งแต่ 17 กันยายน – 16 ตุลาคม
ผู้ที่เกิดราศีตุลย์ : ตั้งแต่ 17 ตุลาคม – 15 พฤศจิกายน
ผู้ที่เกิดราศีพิจิก : ตั้งแต่ 16 พฤศจิกายน – 15 ธันวาคม
ผู้ที่เกิดราศีธนู : ตั้งแต่ 16 ธันวาคม – 14 มกราคม
ผู้ที่เกิดราศีมังกร : ตั้งแต่ 15 มกราคม – 12 กุมภาพันธ์
ผู้ที่เกิดราศีกุมภ์ : ตั้งแต่ 13 กุมภาพันธ์ – 14 มีนาคม
ผู้ที่เกิดราศีมีน : ตั้งแต่ 15 มีนาคม – 12 เมษายน
แบบที่ 2 คือ เริ่มราววันที่ 21-23 ของเดือนก่อน
เป็นแบบฝรั่งทางตะวันตกใช้แบ่งราศีกัน แบบ Vernal Equibnox สุริยวิถี ตัดกับแกนหมุนของโลก แบบนี้จะเรียกว่า Tropical year มีค่าเท่ากับ (365.24219 )วัน ฤดูกาล จะตรงกับ ปี ปฏิทินทำให้คนทั้วไป ทำอาชีพเพาะปลูกได้ วางแผน ล่วงหน้าในการประกอบอาชีพ
ในเขตอบอุ่นและเขตหนาว จะแบ่งออกเป็น 4 ฤดู ได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว ซึ่งโดยทั่วไป ฤดูในเขตอบอุ่นของซีกโลกเหนือจะมีระยะเวลาดังนี้
วสันตฤดูหรือฤดูใบไม้ผลิ: ตั้งแต่ 21 มีนาคม ถึง 20 มิถุนายน
คิมหันตฤดูหรือฤดูร้อน: ตั้งแต่ 21 มิถุนายน ถึง 21 กันยายน
สารทฤดูหรือฤดูใบไม้ร่วง: ตั้งแต่ 22 กันยายน ถึง 21 ธันวาคม
เหมันตฤดูหรือฤดูหนาว : ตั้งแต่ 22 ธันวาคม ถึง 20 มีนาคม
วสันตฤดูหรือฤดูใบไม้ผลิ
– (21 มี.ค. – 20 เม.ย.)
– (21 เม.ย. – 20 พ.ค )
– (21 พ.ค – 20 มิ.ย. )
กลุ่มดาวพฤษภ (Taurus) สัญลักษณ์ประจำราศี คือ วัว – (21 เม.ย. – 20 พ.ค.)
กลุ่มดาวเมถุน (Gemini) สัญลักษณ์ประจำราศี คือ คนคู่– (21 พ.ค. – 21 มิ.ย.)
กลุ่มดาวกรกฏ (Cancer) สัญลักษณ์ประจำราศี คือ ปู – (22 มิ.ย. – 23 ก.ค.)
กลุ่มดาวสิงห์ (Leo) สัญลักษณ์ประจำราศี คือ สิงโต– (24 ก.ค. -23 ส.ค)
กลุ่มดาวกันย์ (Virgo) สัญลักษณ์ประจำราศี คือ หญิงสาว– (24 ส.ค. – 23 ก.ย.)
กลุ่มดาวตุล (Libra) สัญลักษณ์ประจำราศี คือ คันชั่ง– (24 ก.ย. – 23 ต.ค.)
กลุ่มดาวพิจิก (Scorpio) สัญลักษณ์ประจำราศี คือ แมงป่อง – (24 ต.ค. – 22 พ.ย.)
กลุ่มดาวธนู (Sagittarius) สัญลักษณ์ประจำราศี คือ ธนู – (23 พ.ย. -21 ธ.ค.)
กลุ่มดาวมกร (Capricorn) สัญลักษณ์ประจำราศี คือ แพะทะเล – (22 ธ.ค. – 20 ม.ค.)
กลุ่มดาวกุมภ์ (Aquarius) สัญลักษณ์ประจำราศี คือ คนแบกหม้อน้ำ – (21 ม.ค. – 19 ก.พ.)
กลุ่มดาวมีน (Pisces) สัญลักษณ์ประจำราศี คือ ปลาคู่ – (20 ก.พ. – 20 มี.ค.)
จะเห็นว่าวิชาดาราศาสตร์ของชาวตะวันตกในปัจจุบันนั้น สวนทางกับวิชาดาราศาสตร์สมัยโบราณไปอย่างสิ้นเชิง ความขัดแย้งแรกที่สามารถรับรู้ได้คือ
- เรื่องจักรราศี หากถือตามคติของดาราศาสตร์อารยธรรมสินธุ และเมโสโปรเตเมีย ก็ต้องกล่าวว่า ปีหนึ่งมี 12 เดือน เดือนละประมาณ 30 - 31 วัน ตามขอบเขตของจักรราศีที่มีทั้งหมด 12 ราศี โดยแต่ละราศีมีพื้นที่เท่ากันทั้งหมดคือ 30 องศา
- แต่หากยึดตามทฤษฎีของดาราศาสตร์แบบวิทยาศาสตร์ ต้องกล่าวว่าราศีทั้งหมดมี 13 ราศี ขอบเขตของราศีไม่เท่ากัน ราศีพิจิกมีพื้นที่เพียง 7 องศาเท่านั้น และในปีหนึ่ง ๆ นั้นมีทั้งหมด 13 เดือน แต่ละเดือนก็ไม่เท่ากันอีกด้วย ราศีที่ 13 คือ NASA เพิ่ม 'คนแบกงู'
- โดย 0 องศาราศีเมษของดาราศาสตร์แบบโบราณนั้น จะยึดที่ตำแหน่งกลุ่มดาวจริงบนท้องฟ้า ในหลักการดาราศาสตร์ของอินเดียก็ยึดว่า 0 องศาราศีเมษนั้น อยู่ตรงข้ามกับดาวจิตรา หรือดาวสไปกาของกลุ่มดาวราศีกันย์แบบพอดิบพอดี
- แต่ 0 องศาราศีเมษของดาราศาสตร์แบบวิทยาศาสตร์นั้นไม่เหมือนกัน เขาไม่สนใจกลุ่มดาวอะไรทั้งสิ้น เขาสนใจเพียงจุดวิษุวัต (equinox) หรือจุดราตรีเสมอภาคเท่านั้น จุดราตรีเสมอภาคคือจุดที่ทำให้เวลากลางวันและกลางคืนมีระยะเวลา 12 ชั่วโมงเท่ากัน ในปีหนึ่งนั้นจะมีเพียง 2 ระยะเท่านั้น ระยะแรกเรียกว่า วสันตวิษุวัต (Vernal equinox) เกิดขึ้นประมาณวันที่ 20 - 21 มีนาคมของทุกปี และระยะที่สองคือ ศารทวิษุวัต (Autumnal equinox) เกิดขึ้นประมาณวันที่ 22 - 23 กันยายนของทุกปี ซึ่งจุดวิษุวัตนี้ มันเคลื่อนที่ไปเรื่อย ๆ ไม่หยุดนิ่ง หากเทียบกับแผนที่ดาราศาสตร์แบบโบราณ หรือแบบโหราศาสตร์ที่เราใช้กันทุกวัน จุดวิษุวัตจะอยู่ที่ประมาณ 6 องศาราศีมีน เนื่องจากมันเคลื่อนจาก 0 องศาราศีเมษเดิมตามระยะจริงของกลุ่มดาว เข้าไปในกลุ่มดาวราศีมีนทีละน้อยประมาณ 50 ฟิลิปดาต่อปี ในปัจจุบันนี้เคล่ื่อนไปประมาณ 24 องศาแล้ว พูดง่าย ๆ ตามภาษาชาวบ้านคือ มันล้ำเข้าไปในราศีมีน 24 องศา หรือประมาณองศาที่ 6 ของราศีมีนในระบบดาราศาสตร์โบราณ
No comments:
Post a Comment